covidzaa.com
Menu

นั่งเรือไหว้พระ 9 วัด ริมแม่น้ำเจ้าพระยา


หนีรถติดไปนั่งเรือชมวิวกันไหม....วันนี้เราจะพาทุกคนไปนั่งเรือไหว้พระ 9 วัดกัน นอกจากจะไปเสพบรรยากาศดี ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังได้ตะลุยเที่ยวไหว้พระแบบจัดเต็ม พร้อมอิ่มบุญอย่างเต็มที่ และเรือที่เราจะนั่งไปตามวัดต่าง ๆ จะเป็นเรือด่วนเจ้าพระยา

มาเริ่มกันที่วัดแรกกันอย่าง “วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร” วัดริมแม่น้ำย่านฝั่งธนที่อยู่ใกล้กับสะพานพุธทที่เราสามารถนั่งเรือไปลงที่ท่าเรือสะพานพุทธ แวะเดินเที่ยวปากคลองตลาด และเดินขึ้นไปถ่ายรูปสวย ๆ ที่สะพานพุทธและมาไหว้พระที่วัดประยุรวงศาวาสได้เลยค่ะ ซึ่งภายในวัดจะมีพระบรมธาตุมหาเจดีย์ เป็นเจดีย์สีขาวทรงกลมขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 50 เมตร สูง 60 เมต

เดินเลยมานิดนึงก็จะเจอกับ “วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร” เป็นวัดที่เราสามารถเดินต่อมาจากวัดประยุรวงศาวาส วรวิหารได้เลยค่ะ เรียกได้ว่าเดินเลียบริมน้ำมาได้เลยค่ะ อย่างวัดกัลยาณมิตร เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ที่ถูกก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชกาลที่ 3 พร้อมกับสถาปัตยกรรมที่สวยงาม รวมทั้งยังที่ประดิษฐานของพระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโตหรือที่คนจีนเรียกว่า ซำปอกง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ค่ะ

มาต่อที่วัดที่ 3 อย่าง “วัดอรุณราชวราราม” วัดสวยสุดฮิตที่เป็นที่นิยมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ พร้อมกับพระปรางค์สวยงามโดดเด่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากพระปรางค์แล้วยังมียักษ์วัดแจ้ง ที่อยู่คู่เป็นตำนานคู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนานอีกด้วยค่ะ รวมทั้งเพื่อน ๆ คนไหนที่เป็นสายถ่ายรูปแล้วต้องไม่พลาดที่จะไปเช่าชุดไทยถ่ายรูปสวย ๆ และยิ่งถ้าเพื่อน ๆ คนไหนไปตอนช่วงเวลาตอนเย็นแล้วละก็บอกเลยว่าแสงพระอาทิตย์ที่สาดเข้ามาจะสวยมาก ๆ เลยค่ะ

แล้วเรามาข้ามฝั่งไปไหว้พระที่ “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)” วัดดังในย่านพระนครที่ขึ้นชื่อในเรื่องขอความรักมาก ๆ ค่ะ และยังเป็นที่นิยมของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติในเรื่องของความสวยงามของสถาปัตยกรรม รวมทั้งภายในวัดประดิษฐานพระพุทธไสยยาสตร์หรือพระนอน ปางโปรดอสุรินทราหู ขนาดองค์ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ และใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทยเลยค่ะ และใครที่เป็นคนโสดก็สามารถมาขอพรในเรื่องของความรักได้อีกด้วยค่ะ

แล้วใกล้ ๆ กันอย่าง “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว” ที่เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของไทยที่มีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมความสวยงามของวัด อย่างสถาปัตยกรรมทั้งภายใน และภายนอกของวัด เลยทำให้เป็นแลนด์มาร์คหลักในการถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวหลายคนเลยค่ะ และยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ อย่างด้านทางเข้าวัดที่ตอนนี้กำลังเป็นมุมยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปไดอย่างสวยงามเลยค่ะ และยังมีสถาปัตยกรรมฝาผนังที่สวยงามที่ต้องไม่พลาดที่เข้าไปชมเลยค่ะ 

มาต่อกันที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดย่านฝั่งธนริมน้ำ ที่เมื่อเราเข้าไปภายในวัดก็จะเจอกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือหลวงพ่อโต ที่ประดิษฐานอยู่ตรงบริเวณท่าเรือเลยค่ะ เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปไหว้สักการะได้อย่างสะดวกเลยค่ะ พร้อมกับวัดระฆังยังเป็นวัดพระอารามหลวง ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุทธยา และถูกบูรณปฏิสังขรณ์ ในสมัยรัชกาลที่1 นั้นเองค่ะ รวมถึงวัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงให่เรื่องของการขอพรในด้านของให้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นที่นิยมของคนทั่วไปอีกด้วยค่ะ

จากนั้นเราก็นั่งเรือมาลงที่ท่าเรือพรานก และนั่งเรือข้ามฟากไปลงที่ท่าเรือท่าพระจันทร์ และเดินต่อประมาณ 260 เมตรก็จะถึง "วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร" เป็นพระอารามหลวง เดิมมีชื่อว่า วัดสลัก เป็นวัดเก่าแก่มีมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัดสวยใจกลางพระนคร ซึ่งภายในตัววัดมีพระที่เรียงกับภายในวัด พร้อม “พระมณฑป” สถาปัตยกรรมที่กรมพระราชวังบวรฯ ที่เป็นประทานของวัด ซึ่งวัดนี้จะเป็นที่นิยมมากราบไหว้ในเรื่องของความเป็นสิริมงคลนั้นเองค่ะ

และมาต่อที่ "วัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร" เป็นอีก 1 วัดโบราณที่ควรค่าแก่การมาไหว้ขอพรรับปี 2566 ด้านในมีพระประธานพระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชษฐ์ หรือที่เรียกกันว่าหลวงพ่อปู และผู้คนยังมากราบไหว้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ โดยวัดนี้มีความเชื่อว่าหากเราต้องการชนะต่อปัญหาอุปสรรคทั้งปวง การมาไหว้พระที่วัดนี้จะเสริมสิริมงคลให้เราชนะปัญหาอุปสรรคได้นั่นเอง

จากนั้นเราก็เดินเลยขึ้นมาอีกนิดนึงก็จะเจอกับ “วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร” เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวิหาร สถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ที่ถูกสรา้งขึ้นเมื่อสมัยรัชกาลที่ 3 พร้อมกับภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคารของในหลวงรัชกาลที่ 9 และด้วยสถาปัตยกรรมอันสวยงสามภายในวัดจึงทำให้เป็นที่นิยมของทั้งชาวต่างชาติ และคนไทยอีกด้วยค่ะ
































โพสต์โดย : Kingdom Kingdom เมื่อ 15 มิ.ย. 2567 23:59:07 น. อ่าน 38 ตอบ 0

facebook