covidzaa.com
Menu

"แดงเดือด" โคตรมัน แมนฯ ยูฯ สู้ไม่ถอยพลิกนรกชนะ ลิเวอร์พูล ช่วงต่อเวลาพิเศษ

ลิเวอร์พูล จัดแนวรุกเต็มสูบนำโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ฟิตสมบูรณ์เต็มที่ และ ดาร์วิน นูนเญซ กับ หลุยส์ ดิอาซ ขณะที่แนวรับ  เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จับคู่กับ จาร์เรลล์ ควอนซาห์ สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ผู้เล่นสำคัญหายเจ็บกลับมาโดย แอรอน วาน-บิสซาก้า จะยืนคุมแบ็กขวา ส่วนแดนหน้า ราสมุส ฮอยลุนด์ ฟิตพร้อมลงกระซวกตาข่ายพอดี 

แม้ว่าเจ้าบ้านจะเล่นได้ดีมากๆ แต่นาทีที่ 8 ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ โดมินิค โซโบซไล เปิดบอลข้ามฟากมาทางฝั่งซ้าย โม ซาลาห์ ซัดแบบไม่จับแต่บอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว อย่างไรก็ตามในนาทีที่ 10 แรชฟอร์ด จ่ายบอลให้ อเลฮานโดร การ์นาโช่ แต่ซัดไปติดเซฟ เคลเลเฮอร์ แต่บอลไม่พ้นอันตราย สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ชาร์จระยะเผาขนให้ "ผีแดง" ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 38 ลิเวอร์พูล ได้เฮ เมื่อ ซาลาห์ ผ่านบอลให้ วาตารุ เอ็นโด ซัดเข้าประตู แต่น่าเสียดายที่ "วีเออาร์" เช็คเป็นลูกล้ำหน้าทำให้ "หงส์แดง" ชวดประตูตีเสมอไป

เข้าสู่ช่วงสองนาทีสุดท้าย สาวก "เดอะ ค็อป" ได้เฮสนั่นเมื่อ ควอนซาห์ กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนจะส่งให้ โซโบซไล ที่แปะคืน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จัดการกดเต็มข้อแฉลบ ค็อบบี้ ไมนู นิดนึงเข้าประตูไปอย่างงดงาม ลิเวอร์พูล เสมอ 1-1
ในช่วงทดเจ็บ 45+1โจ โกเมซ ไปแย่งบอลจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก่อนจะเปิดเข้าไปในเขตโทษ บอลทะลักมาที่ ดิอาซ ซึ่งผ่านให้ นูนเญซ จัดการซัดอย่างใจเย็นแต่ติดเซฟ โอนาน่า โชคดีที่บอลหล่นมาที่ ซาลาห์ ซึ่งจัดการซัดเข้าไปไม่เหลือซาก ส่งให้ทีมเยือนนำ 2-1 และจากนั้นก็จบครึ่งแรก

ครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด 1 ลิเวอร์พูล 2


ผ่านมานาทีที่ 62 ลิเวอร์พูล ต่อบอลกันอย่างสวยงามก่อนจะจบที่ นูนเญซ ที่ซัดเต็มแรง แต่ โอนาน่า ยังเซฟเอาไว้ได้ หลังจากนั้น "หงส์แดง" ครองเกมได้เหนือกว่าเจ้าบ้าน และพยายามสร้างโอกาสทำประตูอย่างต่อเนื่อง แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่ค่อยดีนัก


ช่วงนาทีสุดท้ายของการต่อเวลา แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างโอกาสกดดันหลายครั้งหลายหน จนกระทั่ง แรชฟอร์ด ได้บอลหลุดเดี่ยวโล่ง แต่ดันยิงออกเสาไกลอย่างน่าเหลือเชื่อ จบเกมเสมอกัน 2-2  ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด 2 ลิเวอร์พูล 2 (ต่อเวลาพิเศษ 30 นาที)


นาทีที่ 100 แมนฯ ยูฯ มีลุ้นอีกครั้งจากจังหวะการยิงของ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ แต่บอลเข้าข้างตาข่าย แต่แล้วในนาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล ได้ประตูนำ 3-2 จากจังหวะการยิงไกลของ เอลเลียตต์ แฉลบ คริสเตียน เอริคเซ่น บอลเข้าเสียบมุม จากนั้นกรรมการเป่านกหวีดหมดช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก


สาวก "เร้ด อาร์มี่" ได้ร้องลั่นสนั่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อ เอเลียตต์ พลาดทำให้โดนแย่งบอลก่อนที่ การ์นาโช่ จะกระชากหลุดเดี่ยวและส่งให้ อาหมัด ดิยัลโล่ จัดการซัดเข้าประตูส่งให้ "ผีแดง" นำ 4-3 แต่ดันดีใจเกิดเหตุด้วยการถอดเสื้อทำให้โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูฯ สามารถรักษาสกอร์ได้สำเร็จ และทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศได้อย่างสุดยอด

โพสต์โดย : joke joke เมื่อ 18 มี.ค. 2567 06:15:26 น. อ่าน 49 ตอบ 0

facebook