covidzaa.com
Menu

10 สถานที่เที่ยวพิจิตร

หลายคนอาจจะเดินขับรถผ่าน จังหวัดพิจิตร กันมานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งจะมีสักกี่คนที่จะแวะมาเที่ยวจริงๆ เราก็เลยรวบรวมที่เที่ยวเด็ดๆ ดังๆ แบบว่า ต้องห้ามพลาด มาฝากกัน เรียกได้ว่า ถ้าไม่แวะจะเสียใจอย่างแน่นอน ไปค่า ตามเราไปเที่ยวกันเลย 
1. บึงสีไฟ
 บึงสีไฟ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ อันดับ 3 ของประเทศไทย และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงเป็น จุดชมพระอาทิตย์ตก ที่สวยและยิ่งใหญ่อลังการมากๆ ที่สำคัญเป็นสัญลักษณ์ของ จังหวัดพิจิตร ที่เราต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกค่ะ ใครชอบบรรยากาศพระอาทิตย์ตกยามเย็น พร้อมวิวบึงสวยๆ ก็ต้องมาที่นี่ลยค่ะ
2. อุทยานเมืองเก่าพิจิตร
อีกสถานที่เที่ยวชื่อดังของ พิจิตร ต้องยกให้กับ อุทยานเมืองเก่าพิจิตร เลยค่ะ เพราะเป็นที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ สร้างในสมัยพระยาโคตรบอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.1601 มาแล้ว เป็นเมืองโบราณ ที่มีทั้ง กำแพงเมือง คูเมือง เจดีย์เก่า ฯลฯ ซึ่งในปัจจุบันนั้น ก็ได้กลายมากเป็น สวนรุกขชาติ ไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวพิจิตรนั่นเองค่ะ
 ถ้าพูดถึงที่เที่ยวคลาสสิคของ พิจิตร ที่เอาไว้ถ่ายรูปสวยๆ เก็บภาพความประทับใจ ก็ต้องที่นี่เท่านั้น กับ สถานีรถไฟพิจิตร ติดอันดับ 1 ใน 10 ของสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในไทยเลย ซึ่งจะสร้างมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว โดยตัวอาคาร จะตกแต่งด้วยบัวปูนโค้งและเล่นลายโค้งๆ ในสไตล์แบบนีโฮคลาสสิคค่ะ จริงๆ รูปแบบอาคารสถานีรถไฟนี้ จะมีอยู่แค่เพียง 2 แห่ง และสถานีแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นนั่นเองค่ะ
4. วัดโพธิ์ประทับช้าง
วัดโพธิ์ประทับช้าง เป็นทั้งวัดและโบราณสถานที่มีอายุกว่า 300 ปีเลยทีเดียว และยังเป็นที่ประสูติของ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) กษัตริย์แห่ง ราชวงศ์บ้านพลูหลวงอีกด้วย โดยภายในจะมีทั้ง พระอุโบสถ เจดีย์คู่ ปรางค์ราย มณฑป และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนนอกคูน้ำ ก็จะเป็นบริเวณของ เขตสังฆาวาส มี หมู่กุฏิสงฆ์ และ แนวเสาขนาดใหญ่ ซึ่งคาดการณ์ว่าตรงนี้ น่าจะเคยเป็น ศาลาเก้าห้อง มาก่อนค่ะ
5. วัดท่าหลวง
   วัดท่าหลวง เป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างมากของ พิจิตร ค่ะ เพราะครั้งในสมัยรัชกาลที่ 3 นั้น ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็น พระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญนั่นเองค่ะ และที่นี่ยังโดดเด่นไปด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมต่างๆ อีกด้วย รวมถึงมีพระคู่บ้านคู่เมืองอย่าง หลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยเชียงแสนรุ่นแรก ที่ชาวพิจิตรเคารพศรัทธาเป็นอย่างมากประดิษฐานไว้อีกด้วย โดยเชื่อกันว่าสามารถขจัดปัดเป่าความทุกข์ร้อน และสิ่งไม่ดีออกไปได้ และจะนำพาแต่สิ่งดีๆ มาให้ผู้ที่กราบไหว้ค่ะ
6. วัดเขารูปช้าง
วัดเขารูปช้าง เป็นอีกวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานเช่นกัน และด้วยความโดดเด่นของวัด คือจะมีภูเขาส่วนยอดลักษณะเหมือนรูปช้าง บนยอดเขาก็จะมีทั้ง โบสถ์ วิหาร พระพุทธรูป พระปรางค์เจดีย์ ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสมัยกรุงศรีอยุทธยา และมีการสร้างเจดีย์บรรจุพระธาตุ บนส่วนของรูปหัวช้างอีกด้วย รวมถึงยังเป็นวัดที่รัชกาลที่ 4 นั้น เคยเสด็จมาแวะประทับที่นี่ ตอนครั้งที่ผนวชเป็นภิกษุนั่นเองค่ะ
7. วัดใหม่ปลายห้วย
 วัดใหม่ปลายห้วย วัดที่สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2537 โดย หลวงปู่ทองดี อนีโฆ ได้เข้ามาบูรณะวัดนี้ และสร้างให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม รวมถึงยังสร้าง ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ อุโบสถ เจดีย์สถาน และอื่นๆ อีกมากมายเพิ่มขึ้น รวมถึงยังมี หลวงปู่เทพโลกอุดร พระยืน พระนั่ง และ พระนอน ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนล่างอีกด้วยค่ะ
 วัดนครชุม วัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยปลายสุโขทัย ไปจนถึงต้นอยุธยา น่าจะมีอายุมากว่า 800 ปีแล้ว ที่สำคัญคือเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัย โดยพระประธานนี้ อยู่ในพิธีถือน้ำพระพิพิฒน์สัตยาในสมัยก่อนอีกด้วยค่ะ และพระอุโบสถ ยังเคยเป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อเพชร ที่ปัจจุบันได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่ วัดท่าหลวง แทนเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
9. ตลาดย่านเก่าวังกรด
ตลาดย่านเก่าวังกรด อยู่ห่างจากเมืองพิจิตร แค่เพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้น เมื่อในอดีตนั้น ที่นี่จะเป็นย่านพาณิชยกรรมที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัด ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีบรรยากาศและกลิ่นอายของความเป็นอดีตคงไว้อยู่ ทั้งวิถีชีวิตชุมชน อาคารบ้านเรือน สถาปัตยกรรม และการค้าขายต่างๆ โดยในทุกวันเสาร์นั้น ก็จะมีตลาดนัดของคนในชุมชน ที่มีทั้ง อาหารและสินค้ามากมาย ให้ได้เดินเที่ยวช้อปกัน รวมไปถึงมีการแสดง รำวงย้อนยุค ให้ได้เพลิดเพลินระหว่างช้อปปิ้งกันอีกด้วยค่ะ
10. ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์ บ้านเขาโล้น
บ้านเขาโล้น ที่ตั้งของ ทุ่งดอกกระเจียวยักษ์ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆ ของ พิจิตร ด้วยความพิเศษของ ดอกกระเจียวยักษ์ ที่ไม่ธรรมดานี้ คือจะมีลักษณะใหญ่กว่าดอกกระเจียวทั่วไปอยู่ 2-3 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งจะออกดอกชูสีชมพูสลับสีขาวกันไปอย่างสวยงาม โดยจะออกบานตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงกลางเดือนตุลาคมเลย ถือว่าเป็นความสวยของธรรมชาติที่ต้องห้ามพลาดเลยจริงๆ


โพสต์โดย : Kingdom Kingdom เมื่อ 18 ก.พ. 2567 07:48:01 น. อ่าน 52 ตอบ 0

facebook