3 วันในกรุงเรคยาวิก (Reykjavik) EP3

          เริ่มต้นวันใหม่ด้วยขนมปังเบเกิลหรือขนมอบชวนฝันที่ร้านเลอก็อก (Le Kock) ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรมเอ็กซิเตอร์ (Exeter Hotel) ผู้ได้รับรางวัล Travellers' Choice ประจำปี 2023 

          จากที่นี่ คุณจะได้สัมผัสเจาะลึกถึงประสบการณ์ทางวัฒนธรรมของเรคยาวิกที่พิพิธภัณฑ์แบบอินเทอร์แอคทีฟสักแห่งจากที่มีอยู่มากมายในเมือง สถานที่ซึ่งได้รับความนิยม: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไอซ์แลนด์ (National Museum of Iceland) ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมไวกิ้งอันเป็นรากฐานของไอซ์แลนด์ในยุคสมัยใหม่ ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมอื่นๆ ได้แก่ ศูนย์แสงเหนือเรคยาวิก (Aurora Reykjavík) ซึ่งจับภาพความยิ่งใหญ่ของแสงเหนือผ่านภาพยนตร์ไทม์แลปส์ความละเอียดสูงซึ่งคุณสามารถชมได้จากเก้าอี้บีนแบ็ก และพิพิธภัณฑ์เพอร์ลัน (Perlan) ซึ่งคุณจะได้พบกับถ้ำน้ำแข็งในร่มจริงๆ หน้าผานกขนาดเท่าของจริง การแสดงโชว์เกี่ยวกับภูเขาไฟ และท้องฟ้าจำลอง

          หลังจากการเรียนรู้ในช่วงเช้า มุ่งหน้าออกจากเมืองไปยังบลูลากูนเพื่อรับความผ่อนคลายสักเล็กน้อย ระหว่างทาง ลองแวะที่ภูเขาไฟฟากราดาลสฟยาลล์ อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปชมเมื่อเกิดการปะทุ แม้ว่าขณะนี้ภูเขาไฟลูกนี้จะไม่มีการปะทุ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ปะทุพ่นลาวาเป็นประจำ และอาจกลับมาเริ่มปะทุใหม่ได้ทุกเมื่อ

- ทัวร์บลูลากูนและการชมแสงเหนือ (Blue Lagoon & Northern Lights Tour) ได้รวมเอาประสบการณ์ที่ดีที่สุดสองอย่างของไอซ์แลนด์เข้าไว้ในกิจกรรมเดียวผ่านการออกผจญภัยแปดชั่วโมง ไกด์ของคุณจะไปรับคุณที่เรคยาวิกและจะดูแลกระบวนการด้านโลจิสติกส์ทั้งหมด ตั้งแต่การหาซื้อตั๋วบลูลากูนไปจนถึงการติดตามลักษณะสภาพอากาศเพื่อให้มีโอกาสชมแสงเหนือได้อย่างดีที่สุด 

- หากคุณต้องการทำกิจกรรมเหล่านี้ทั้งหมด โปรดดูทัวร์วงกลมทองคำ บลูลากูน และการเข้าชมปล่องภูเขาไฟเคริด (Golden Circle, Blue Lagoon Including Admission & Kerid Volcanic Crater Tour) ทัวร์นี้เป็นการชมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแบบเต็มวัน ผ่อนคลายกับการแช่น้ำพุร้อน และเดินขึ้นไปยังด้านบนของปล่องภูเขาไฟ

- หากต้องการดูสิ่งมหัศจรรย์บนคาบสมุทรเรคยาเนส (Reykjanes Peninsula) เพิ่มเติม ให้เลือกทัวร์บลูลากูนและอุทยานธรณีของยูเนสโกบนคาบสมุทรเรคยาเนส (Blue Lagoon & Reykjanes UNESCO Geopark Tour) ไม่เพียงแต่คุณจะได้มีเวลามากมายในการทำกิจกรรมที่บ่อน้ำพุร้อนเท่านั้น แต่คุณยังจะได้เที่ยวชมประภาคารอันโด่งดัง ทะเลสาบ สะพานข้ามทวีป (Bridge Between Continents) และสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย 

นักท่องเที่ยวกล่าวว่า “ตรวจดูไลฟ์แคมให้ดีก่อนออกเดินทางเพื่อให้แน่ใจว่าภูเขาไฟเกิดการปะทุ เราไปช่วงกลางเดือนสิงหาคม ทางยังสร้างไม่เสร็จ จึงใช้เวลาเดินขึ้นเขานานมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่หนักหนาอยู่ไม่น้อยในทุกย่างก้าว กังวลใจว่าจะไม่คุ้มค่าใช่ไหม แต่ว้าว มันคุ้มค่าจริงๆ ลาวาทำให้ฉันแทบลืมหายใจไปเลย” —@CharErinazard

           หากคุณต้องการสนุกสุดเหวี่ยงในคืนสุดท้าย ไม่ต้องนั่งรถบัสกลับเรคยาวิก แต่ให้จองห้องสุดหรูที่รีสอร์ทรีทรีตแอตบลูลากูน (Retreat at the Blue Lagoon) ห้องสวีทแต่ละห้องจัดให้มีพื้นที่ส่วนตัว (แต่กว้างขวาง) ไว้สำหรับการแช่น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง อีกทั้งมีสปาที่ให้บริการการลอยตัวบำบัดในน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงมุมมองของคุณต่อโลกทั้งใบ นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร 2 แห่งที่มิชลินแนะนำ ได้แก่ ร้านมอสส์ (Moss Restaurant) และร้านลาวา (Lava) ทั้งสองร้านเป็นผู้ชนะรางวัล Travellers' Choice ประจำปี 2022 และให้บริการอาหารประจำวันคุณภาพเยี่ยมยอดที่ปรุงจากปลา

           ในส่วนของผู้ที่เดินทางกลับเรคยาวิก ส่งท้ายวันด้วยการแวะรับประทานอาหารค่ำที่ร้านโฮซิโล (Hosiló) โดยเมนูที่มีการสับเปลี่ยนเป็นประจำจะเน้นไปที่อาหารซึ่งปรุงด้วยปลาสดใหม่และส่วนผสมตามฤดูกาลอื่นๆ ก่อนเข้านอน ออกไปเดินเที่ยวบริเวณท่าเรือ ทิวทัศน์ของภูเขาเอสจัน (Esjan mountain) ที่อยู่ตรงข้ามอ่าวสร้างความรู้สึกสุขสงบเป็นพิเศษหลังจากทำกิจกรรมที่อัดแน่นมาตลอดสามวัน ทั้งการเดิน การช้อปปิ้ง การรับประทานอาหาร การขึ้นลงภูเขา และการแช่น้ำพุร้อน