สารที่อยู่ในกล้วยหอม มีส่วนช่วยในการกระตุ้นความตื่นตัวให้กับสมองได้ จากการวิจัยพบว่าการรับประทานกล้วยหอมเป็นอาหารเช้าก่อนเข้าห้องสอบ จะช่วยให้สมองได้ทำงานอย่างเต็มที่ และทำให้รู้สึกสดชื่นและตื่นตัวได้
กล้วยอุดมไปด้วยโพแทสเซียม แมกนีเซียม และวิตามินบี 6 ซึ่งช่วยบรรเทาอาการผิดปกติก่อนมีประจําเดือน
ในกล้วยหอมมี tryptophan กรดอะมิโนโปรตีน ซึ่งร่างกายแปลงเป็น serotonin สารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใสและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
ในกล้วยหอมจะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ร่างกายมีการสร้างฮีโมโกลบิน ให้กับเม็ดเลือดแดง จะช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจางได้
กล้วยหอมมีใยอาหารอยู่มากจึงช่วยให้ลำไส้เล็กย่อยอาหารได้ดีขึ้น และช่วยเคลือบกระเพาะอาหารไม่ให้เกิดแผลในกระเพาะ ลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง และช่วยลดท้องผูกอีกด้วย
กล้วยหอมมีวิตามินเอ และเบต้า-แคโรทีน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญต่อดวงตา มีส่วนช่วยบำรุงการทำงานของระบบประสาทตา จอประสาทตา จึงสามารถบำรุงสายตาและการมองเห็นได้เป็นอย่างดี
กล้วยมีไฟเบอร์จำนวนมาก และเป็นแบบชนิดละลายน้ำได้ ซึ่งดีต่อระบบขับถ่ายของเรามาก ดังนั้นใครมีอาการท้องผูกบ่อยๆ ลองกินกล้วยหอมให้ได้ทุกวัน วันละ 1 ลูก จะช่วยแก้ท้องผูกได้
ในกล้วยหอมมีวิตามินแร่ธาตุ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ อีกหลายชนิดที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ ที่สำคัญเบต้า-แคโรทีนในกล้วยหอมยังมีส่วนช่วยบำรุงความสมบูรณ์แข็งแรงของหลอดเลือดเราได้อีกทาง
เปลือกกล้วยหอมยังมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการมือเท้าแตกได้ โดยนำกล้วยหอมที่สุกเต็มที่มาเจาะรูเล็กๆ ที่ปลายข้างหนึ่ง แล้วบีบเอากล้วยออกมาทาที่เท้าแตก ทิ้งไว้หลายชั่วโมงแล้วค่อยล้างออก จะทำให้เท้าชุ่มชื้นขึ้น
เนื่องจากกล้วยหอมมีรสเย็น และเข้าเส้นลมปราณปอด จึงมีการนำกล้วยหอมมารักษาโรคร้อน กระหายน้ำ แก้เมาแฮงก์ แก้ไอเรื้อรังจากอาการคอแห้ง เพียงแค่กินกล้วยหอมสุกหรือสมูทตี้กล้วยหอมนั่นเอง
กล้วยหอมมีสารอาหารที่มีโพแทสเซียมเป็นจำนวนมาก จึงมีส่วนช่วยลดการเกิดก้อนนิ่วในไตได้
คนที่มีอาหารกล้ามเนื้อเป็นตะคริวเป็นคนที่ขาดโพแทสเซียม หรือมีโพแทสเซียมในร่างกายต่ำ ซึ่งการทานกล้วยหอมเป็นประจำ จะช่วยลดอาการดังกล่าวได้
กล้วยหอมยังมีประสิทธิภาพช่วยผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ เพราะวิตามินบี 6 บี 12 โพแทสเซียมและแมกนีเซียมที่มีอยู่มาก ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสารนิโคติน ในผู้มีอาการเมาค้าง
การกินกล้วยหอมเล็กน้อย ในทุกๆ 2 ชั่วโมง จะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดในร่างกายไม่ให้สูงเกินไป และลดการอยากกินของจุกจิกได้อีกด้วย
กล้วยหอมมีสารฟอสฟอรัสค่อนข้างสูง ซึ่งสารอาหารชนิดนี้จะมีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกนั่นเอง อีกทั้งกล้วยหอมยังมีแคลเซียมช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกระดูกส่วนต่างๆ ในร่างกายได้อีกทางด้วย
กล้วยหอมมีฤทธิ์เย็น ไม่เหมาะต่อคนที่มีอาการท้องอืด มีลมในท้องมาก มีเสมหะมากเนื่องจากอาการม้ามพร่อง หากรับประทานเยอะอาจทำให้อาการเหล่านี้กำเริบได้
โพสต์โดย : เจ้าหนู เมื่อ 24 ม.ค. 2567 07:14:31 น. อ่าน 58 ตอบ 0