ทัวร์พม่า - ชวนไปเที่ยวไหว้พระทำบุญ กับ 6 สถานที่ของพม่า ที่ถูกร่ำลือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก

     ทัวร์พม่า – พม่าประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงติดกับประเทศไทย ในแง่ของการท่องเที่ยว พม่ามีที่เที่ยวต่างๆ กำลังได้ รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากถึงมากที่สุด ไม่แพ้ลาวหรือเวียดนามที่เป็นเพื่อนบ้านเรา ด้วยความที่พม่าเพิ่งเปิดประเทศไม่นานและยังมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติค่อนข้างมาก เที่ยวได้ในราคาไม่แพง คนไทยที่เที่ยวพม่าส่วนใหญ่ มักไปไหว้พระที่พม่า เพื่อขอพร ขอโชคลาภกัน เพราะมีวัดชื่อดังอยู่มากมาย มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์และร่ำลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ วันนี้เราจึงได้รวบรวมวัดพม่า 5 แห่ง ที่ห้ามพลาดมาฝากทุกคนกัน มาถึงพม่าแล้วล่ะก็ต้องไปไหว้พระทำบุญที่วัดตามที่เราแนะนำนี้ให้ได้เลยนะ  

     วัดมหากันดายงค์ (Mahagandayon Monastery) เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุระ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบตองตะมาน ใกล้สะพานอูเบ็ง และเป็นวิทยาลัยสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดของพม่า มีภิกษุและสามเณรมาศึกษาเล่าเรียนทางธรรมกว่า 1,200 คน และมีพระภิกษุจาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ มาบวชเรียนด้วย ช่วงเวลาบิณฑบาต จะมีภิกษุสงฆ์นับร้อยรูปเดินเรียงแถวด้วยอาการสำรวมเพื่อรับบาตร เนื่องจากเป็นวัดที่มีพระสงฆ์เยอะมาก ดังนั้นภาพของพระสงฆ์และสามเณรที่ออกมายืนเรียงแถวเพื่อบิณฑบาตอาหารเพลพร้อมๆ กัน เป็นภาพที่นักท่องเที่ยวพม่าที่เที่ยวแนวแสวงบุญมารอชื่นชม และได้ถือโอกาสทำบุญด้วยตามกำลังศรัทธา 

     วัดเมห์นู อ๊อกคยัง (Mae Nu Oak Kyaung Temple) หรือ วัดมหาอ่องมเหย่ป่งสั่น (Maha Aung Mye Bon Zan Monastery) วัดแห่งนี้จะมีความแตกต่างจากวัดอื่นซึ่งสร้างด้วยไม้ วัดแห่งนี้สร้างจากอิฐและปูน ผู้ที่สร้างวัดนี้ก็คือ พระนางเมห์นู มเหสีของพระเจ้าบาจีดอ หรือ พระเจ้าจักกายแมง (ครองราชย์เมื่อ พ.ศ. 2362 – 2380) คนที่สร้างวัดสีขาวๆ ที่มิงกุน คำว่า “เมห์นู” มาจากชื่อของพระนาง ส่วนคำว่า อ๊อกคยัง หมายถึง วัดที่สร้างขึ้นมาจากปูน กล่าวถึงเรื่องราวของผู้สร้างวัดคือ พระนางเมห์นู นางมีส่วนสำคัญในการสร้างประวัติศาสตร์ของพม่าในราชวงศ์โกนบอง หรือราชวงศ์อลองพญา หรือในไทยเรียกว่า ราชวงศ์คองบอง ราชวงศ์ที่ 3 ในประวัติศาสตร์พม่า และเป็นราชวงศ์สุดท้ายของพม่า ก่อนที่จะตกเป็นเมืองขึ้นของสหราชอาณาจักร และสิ้นสุดการปกครองระบอบราชาธิปไตย (ศูนย์กลางอำนาจอยู่ในมือพระมหากษัตริย์) ของพม่า

      วัดเจดีย์นมสาว หรือ เจดีย์กองมูดอว์ (KaungHmuDaw Pagoda) สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1636 โดยพระเจ้าตาหลู่น เพื่อใช้ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว ทรงของเจดีย์คล้ายทรงครึ่งวงกลมคว่ำ เป็นศิลปะในแบบของชาวสิงหล หรือ เรียกอีกอย่างว่า เจดีย์ทรงลังกา องค์เจดีย์มีความสูง 46 เมตร เส้นรอบวงวัดได้ 274 เมตร เนื่องจากรูปทรงเจดีย์ค่อนข้างแปลกตา คล้ายกับทรวงอกหรือเต้านมของหญิงสาว จึงเป็นที่มาของชื่อ เจดีย์นมสาว ปัจจุบัน ตัวเจดีย์มีการบูรณะใหม่ ถูกทาให้เป็นสีทองทั้งหมดเพื่อความสวยงาม 

     วัดอูมิน ธอนเซ (U min Thonze Temple) เป็นวัดแรกที่แวะเข้าไปไหว้พระ คนไทยเรียกว่า “วัดสามสิบถ้ำ” เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนกลางภูเขาสกายน์ โครงสร้างมีลักษณะพิเศษ เป็นกำแพงรูปครึ่งวงกลม มีทางเข้ากว่า 30 ซุ้มประตู เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ วัดพม่าที่เที่ยวกลุ่มศาสนถานแห่งนี้ ด้านในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปถึง 45 องค์ จีวรของพระพุทธรูปปิดด้วยทองคำเปลว ด้านหลังเป็นผนังด้วยกระจกสีเขียว ซึ่งขับองค์พระสีทองให้สวยงามยิ่งขึ้น ด้านข้างมีบันไดขึ้นไปชมวิวด้วย

     อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอยากให้เพื่อนๆได้ไปชมกันนั้น เป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญมากอีกแห่งหนึ่งในมัณฑะเลย์ที่พระเจ้ามินดงทรงสร้างขึ้นนั่นเองครับ นั่นก็คือ “วัดกุโสดอร์ ”  เป็นวัดที่สร้างขึ้นพร้อมๆ กับการสร้างเมืองในปี พ.ศ. 2400 ที่นี่เป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4  พระเจ้ามินดง ทรงให้จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ ลงบนหินอ่อน 729 แผ่น ถือเป็นพระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกพระไตรปิฎกเป็นภาษาบาลี และได้นำมาประดิษฐานในมณฑป อยู่รอบ “พระเจดีย์มหาโลกมารชิน” มีความสูง 30 เมตร ซึ่งจำลองรูปแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเมืองพุกามนั่นเอง

     เจดีย์สีขาวแห่งลุ่มน้ำอิระวดี เจดีย์ชินพยูเม หรือ เมียะเต็งดาน (Hsinbyume Pagoda) ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ประมาณ 11 กิโลเมตร อยู่ในเมืองมินกัน (Mingun) รัฐสกาย เป็นเจดีย์สีขาวบริสุทธิ์เป็นรูปทรงเกลียวคลื่น สวยงามด้วยส่วนโค้งเท่ากันไล่ระดับขึ้นไปด้านบน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2359 โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์ทรงมีต่อพระมหาเทวีชินพยูเม จึงได้รับฉายาว่า “ ทัชมาฮาลแห่งลุ่มน้ำอิระวดี ”