หากพูดถึงภาคเหนือ หนึ่งในจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวคือเชียงราย ซึ่งเป็นเป็นจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว แต่ทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกหลายที่ให้ทุกคนได้ไปเช็คอินกันอีกเพียบ
มีพื้นที่เกษตรกรรม และไร่ชากว่า 600 ไร่ โดยปลูกพืชหลายชนิดตามความเหมาะสมกับสภาพดิน ทั้งไม้ผล อาทิ พุทรา มะเฟือง สตอเบอรี่ มะเขือเทศ ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง กระท้อน พืชสวนมีชาพันธุ์อู่หลง มะนาว หม่อน ส่วนพื้นที่ราบจะปลูกพืชไร่ที่มีชื่อเสียง เช่น ข้าวบาร์เลย์ และข้าว และพืชผัก เช่น บร็อกโคลี่ ฟาร์มเห็ดหอม และการทำฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงวัวนม เป็นต้นรวมทั้งแปลงเกษตรผสมผสาน และพื้นที่จัดสวนดอกไม้ นานาพรรณ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ
2. หมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร
นอกจากชาวกะเหรี่ยงแล้วยังมีหมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่าและลาหู่ในระแวกใกล้เคียง หมู่บ้านกระเหรี่ยงเป็นหมู่บ้านขี่ช้างเที่ยวชมหมู่บ้านชาวเขา
3. พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
สร้างขึ้นโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ที่มีฝีมือทางด้านจิตรกรรม ปฏิมากรรม ได้สร้างงานด้านศิลปะไว้มากมาย ทั้งทางด้านภาพเขียน และด้านปฏิมากรรมหลายชิ้น ลักษณะของบ้านดำจะเป็นกลุ่มบ้านศิลปะแบบล้านนา ทุกหลังทาด้วยสีดำ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “บ้านดำ” และยังเป็นสีที่ อ. ถวัลย์โปรดปรานอีกด้วย ในบ้านแต่ละหลังจะประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม นอกจากไม้แกะสลักแล้วยังประดับด้วยเขาสัตว์ เช่น เขาควาย เขากวาง และยังมีกระดูกสัตว์ เช่น กระดูกช้าง เป็นต้น ติดต่อบสอบถาม โทร.0 5377 6333
4. ไร่ชาฉุยฟง
เป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี ของ บริษัท ฉุยฟงที จำกัด ซึ่งป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย โดยมี ประสบการณ์ยาวนานในการเพาะปลูกชามากว่า 40 ปี ปัจจุบัน บริษัท ฉุยฟง เป็นผู้ผลิตชา ผู้จัดจำหน่ายและผู้ส่งออก มีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้ใช้ทางด้านอุตสาหกรรม เช่น โออิชิ มาลี ยูนีฟ ลิปตัน เป็นต้น ด้วยความความสวยงามของไร่ชาที่กว้างใหญ่กว่าพันไร่โดยจะปลูกโค้งวนตามสันเขาและลดหลั่นเป็นขั้นบันได ซึ่งดูสวยงามแปลกตากว่าไร่ชาที่อื่น ติดต่อสอบถาม โทร.0 5377 1563
พระตำหนักดอยตุง สร้างจากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ด้านนอกก่อสร้างด้วยคอนกรีตตกแต่งด้วยปีกไม้ ซึ่งเป็นไม้สักขนาดเล็กได้จากการทอนไม้ที่ไม่ได้ขนาดในสวนป่าขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เพื่อให้ไม้สักที่เหลือเจริญเติบโตแข็งแรง ได้ใช้ประโยชน์ต่อไปภายในพระตำหนักบุผนังด้วยไม้สน จากลังไม้ที่ใส่เครื่องมือและอุปกรณ์ขนาดใหญ่ ส่วนพื้นเป็นไม้สักทองที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้น้อมเกล้าฯถวายการสร้างพระตำหนักจึงเป็นตัวอย่างของการรู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า เพื่อใช้ของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตัวอาคารชั้นบนแยกเป็น 4 ส่วน
6. เขตการค้าชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก
ตลาดแม่สายเป็นตลาดการค้าชายแดนที่มีชื่อเสียงมานานหลายสิบปี เนื่องจากชาวพม่าและชนกลุ่มน้อยจะเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ จากฝั่งไทยอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามไปท่องเที่ยวท่าขี้เหล็กได้โดยไม่ต้องออกหนังสือผ่านแดน ภายหลังเกิดการรบพุ่งระหว่างรัฐบาลพม่ากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย และกลายเป็นปัญหาขัดแย้งระหว่างสองประเทศ จึงมีการปิดด่านอยู่เนือง ๆ แต่ก็มีการเจรจาจนสถานการณ์คลี่คลายไปด้วยดี อย่างไรก็ตามปัญหาชนกลุ่มน้อย ยาเสพติด ทำให้การผ่านแดนต้องเป็นไปอย่างเข้มงวด คนไทยจึงต้องทำหนังสือผ่านแดนหากต้องการไปท่องเที่ยวที่ท่าขี้เหล็ก ติดต่อสอบถาม ที่ว่าการอำเภอแม่สายโทร.0 5373 1396,0 5373 3223
7. ถนนคนเดินเชียงราย
จัดงานถนนคนเดิน กาดเจียงฮายรำลึก รูปแบบล้านนาในอดีต ร่วมย้อนอดีตล้านนา พลิกฟื้นภูมิปัญญาท้องถิ่น คืนชีวิตให้ชุมชน ทุกวันเสาร์ของเดือน โดยเริ่มมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นมา ณ บริเวณถนนธนาลัย ตั้งแต่สี่แยกสำนักงานยาสูบ ไปจนถึงสี่แยกธนาคารออมสิน ระยะทาง 1,500 เมตร อยู่ใจกลางเมืองเชียงรายและปัจจุบันได้ขยายระยะทางออกไปอีก โดยมีเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.-24.00 น. ทุกวันเสาร์ ซึ่งจะกำหนดแบ่งออกเป็น 3 โซน โดย ติดต่อสอบถาม โทร.0 5371 1333
8. วัดห้วยปลากั้ง
วัดห้วยปลากั้งเริ่มกันก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ จนกระทั่งวันที่ 19พฤศจิกายน 2548 ได้มี พระอาจารย์พบโชค ติสฺสวํโส ได้เดินทางมาปฏิบัติธรรม แรกเริ่มบริเวณนี้ยังไม่มีวัดแบบปัจจุบัน แต่เนื่องจากพระอาจารย์พบโชคมีความรู้เรื่องโหราศาสตร์ ในการทำนายทายทัก ซึ่งปรากฏว่าผู้คนที่มาดูดวง ส่วนใหญ่นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของตน ตามความเชื่อส่วนบุคคล และได้ประสบผลสำเร็จในชีวิตทำให้พระอาจารย์พบโชคเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งภาคเหนือและทั่วประเทศในที่สุด ภายในเจดีย์ มีเจ้าแม่กวนอิมจำลองแกะสลักด้วยไม้ ตรงบริเวณชั้นหนึ่งของเจดีย์ และแต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปประจำชั้นประดิษฐานอยู่ด้วย ติดต่อสอบถาม โทร.0 5315 0274
9. ภูชี้ฟ้า
เป็นส่วนหนึ่งของเทือกดอยผาหม่น ที่เป็นพรมแดนไทย-ลาว ด้าน จ.เชียงราย-พะเยา ลักษณะเป็นหน้าผาหินตั้ง อยู่บนเส้นกั้นพรมแดนพอดี ในอดีตเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของ พคท. ด้วยสภาพภูมิประเทศที่สูงชัน จึงเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญ ชาวลาวและชาวไทย ในพื้นที่เรียกผาหินที่ชี้เหยียดตรงขึ้นไปบนฟ้าว่าภูฟ้า เมื่อปัญหาด้านความมั่นคงคลี่คลาย มีการตัดถนนขนานแนวชายแดน ไทย-ลาว จากบ้านผาตั้ง ภูชี้ฟ้า ไปถึง อ.เชียงคำ ภูชี้ฟ้าจึงเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม บนยอดภูชี้ฟ้า เป็นจุดที่ยื่นจากแนวเขตพรมแดน จึงไม่สามารถระบุชัดได้ว่า อยู่ในเขตไทยหรือลาว แต่ทางขึ้นสู่ยอดภูชี้ฟ้านั้นอยู่ในเขตไทย เคยมีการปักธงชาติไทยบนปลายสุดของหน้าผา แต่ในวันถัดมา ทหารลาวก็จะนำธงลาวมาปักเคียงคู่กันด้วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงห้ามนักท่องเที่ยวพักแรมบนภูชี้ฟ้า ติดต่อสอบถาม โทร.0 5316 0743
ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ก่อตั้งโดยพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ท่านว.วชิรเมธี) พระนักคิด นักเขียน นักเทศน์ และนักพัฒนาสังคมชื่อดังของประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็น “ศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก” (International Meditation Center) รมณียสถานแห่งนี้ตั้งอยู่เลขที่ 217 บ้านใหม่สันป่าเหียง ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย บนเน้ือที่กว่า 170 ไร่ ทิศเหนือติด ทุ่งนา ทิศใต้ติดอ่างเก็บน้ำห้วยสัก ทิศตะวันออกติดอ่างเก็บน้ำห้วยสัก ทิศตะวันตกติดถนนของชุมชน ติดต่อสอบถาม โทร.08 7080 7779