10 ที่เที่ยวมิวนิก ที่สุดของความงาม Munich

     มิวนิก (Munich) หรือ ที่ภาษาเยอรมนีอ่านว่า “มึนเชน” (Munchen) นั้นเป็นเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี แม้ว่าเมืองมิวนิก จะไม่ใช่เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และ ไม่ได้เป็นเมืองหลวงซึ่งเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และ ประชากร แต่เมืองมิวนิกแห่งนี้ ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเมืองเยอรมนี ซึ่งสำหรับชาวเยอรมนีแล้ว เมืองมิวนิก เป็นเหมือนเมืองขนาดเล็กที่เงียบสงบ  ไม่ใช่มหานครเหมือนที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ เรียกกัน ทั้งนี้เนื่องจากสำหรับชาวเยอรมนีแล้ว เมืองมิวนิกคือเมืองแห่งสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปโบราณ เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของชาวเยอรมนีมากมาย อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ชาวเมืองดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายนั่นเอง 

  ซึ่งหากคุณมีโอกาสได้มาเที่ยวเมืองมิวนิกแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 10 ที่นี่ คือ สถานที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด 

     เราขอเริ่มต้นรายการที่เที่ยวมิวนิกกันที่ แลนด์มาร์กซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าใจกลางเมืองมิวนิก อีกทั้งยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมือง อย่าง “จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz Square)” ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้ นอกจากจะเป็นแหล่งรวมตัว และ พบปะสังสรรค์ของประชากรเมืองมิวนิกแล้ว จัตุรัสแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ซึ่งต่างสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ชาติเยอรมนีนมากมาย 

     โดยใจกลางจัตุรัส โดดเด่นด้วยอนุเสาวรีย์รูปปั้นพระแม่มารีสร้างด้วยทองคำ เด่นเป็นสง่าด้วยความสูงกว่า 11 เมตร ทางตอนเหนือ เป็นที่ตั้งของอาคารศาลาว่าการเมืองของจังหวัดแห่งใหม่ (New Town Hall หรือ Neues Rathaus) ซึ่งเป็นอาคารสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองมิวนิก ออกแบบด้วยสไตล์โกธิกโบราณ ในขณะที่ทางตะวันออกของจัตุรัสเป็นที่ตั้งของศาลากลางหลังเก่า (Altes Rathaus) นั่นเอง 

     ซึ่งจุดเด่นที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมความยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ คือ บริเวณระฆังของศาลาว่าการเมืองแห่งใหม่ที่ตกแต่งด้วยรูปปั้น แสดงถึงประวัติศาสตร์ของมิวนิก ซึ่งจะส่งเสียงเพลงวันละสองรอบ รอบแรกในช่วง 11:00 – 12:00 น. และรอบที่สองเวลา 17:00 น. ของทุกวัน 

     สวน “Englischer Garten” หรือ “English Garden” นั้น สามารถแปลได้อย่างตรงตัวว่า “สวนอังกฤษ” เป็นสวนสาธารณะกลางเมืองมิวนิกที่มีขนาดใหญ่กว่า Central Park ในมหานครนิวยอร์ก และ สวน Hype Park ในกรุงลอนดอนเสียอีก ซึ่งสวนแห่งนี้ เชื่อมต่อกับเมืองเก่าของมิวนิก และ แม่น้ำอีซาร์ (Isar) ความกว้างใหญ่ของสวนกินพื้นที่มิวนิกตั้งแต่กลางเมืองจนไปจรดที่ตะวันออกเฉียงเหนือของมิวนิก ซึ่งนอกจากจุดเด่นของสวน English Garden แห่งนี้ พื้นจะเป็นพื้นที่สีเขียวสุดลูกหูลูกตา และ ดอกไม้นานาพันธุ์แล้ว สวนแห่งนี้ยังมีแม่น้ำ Eisbach ที่ไหลตัดผ่านตัวสวน ด้วยความยาว 15 กิโลเมตร อีกทั้งยังมีสะพานข้ามแม่น้ำกว่า 100 สะพานอีกด้วย 

     ทางตอนเหนือของสวน มีทะเลสาบ Kleinhesseloher See ซึ่งโอบล้อมด้วยอาคารสำหรับพักผ่อนหย่อนใจมากมาย นอกจากนี้ ทางเข้าของสวนยังมีอาหาร เบียร์ ขนม และ เครื่องดื่มคอยให้บริการอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เล่นกีฬา ปิกนิค และ พบปะสังสรรค์ของนักท่องเที่ยว และ ประชากรเมืองชาวมิวนิกอย่างแท้จริง!  

     สถานที่ท่องเที่ยวประจำเมืองมิวนิก ที่หากไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนความยิ่งใหญ่ คงจะเหมือนมาไม่ถึงที่นั้น จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก และ สวนเฟนเบิร์ก (Nymphenburg Palace and Park) ซึ่งแต่เดิม พระราชวังแห่งนี้ เป็นพระราชวังที่ประทับฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรียมาหลายศตวรรษ มีความเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่ ปีค.ศ. 1662 ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองมิวนิก บริเวณรอบๆ วัง สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ บริเวณพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ (Nymphenburg Palace with Marstallmuseum) พิพิธภัณฑ์เครื่องลายคราม (Nymphenburg Porcelain Museum) และ บริเวณสวนของพระราชวัง (Nymphenburg Park Pavilions)

     ลักษณะเด่นของพระราชวังแห่งนี้ คือ สถาปัตยกรรมการออกแบบโดยผสมผสานศิลปะในสไตล์ฝรั่งเศสและอังกฤษเข้าด้วยกันอย่างลงตัว  จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมยุโรปที่มีคุณค่าที่สุดอีกหนึ่งแห่งของโลก นอกจากสถาปัตยกรรมภายนอกที่งดงามแล้ว ภายในวังนั้น มีความอลังการ ถูกประดับตกแต่งด้วยภาพวาดจิตรกรรม โดยห้องที่ไม่ควรพลาดคือห้องโถงใหญ่ (The Great Hall) ซึ่งห้องนี้มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบร็อคโคโค อีกทั้งยังประดับตกแต่งด้วย ภาพวาดทางจิตรกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวของสรวงสวรรค์ แห่งโอลิมเปียน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพนั่นเอง  

     เที่ยวเยอรมนี เมืองมิวนิกทั้งที อีกหนึ่งที่เที่ยวที่เรียกได้ว่า ไม่ได้เป็นเพียงแค่ไอคอนของเมือง แต่เป็นไอคอนของประเทศเยอรมนีก็ว่าได้นั้น จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากปราสาทนอยชวานชไตน์ (Neuschwanstein Castle) หรือ ปราสาทมิวนิก ซึ่งเรื่องความสวยงามนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะปราสาทแห่งนี้ ได้ถูกใช้เป็นต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิง (Sleeping Beauty) แห่งเทพนิยายดิสนีย์ ณ สวนสนุกดิสนีย์แลนด์, โตเกียวดิสนีย์แลนด์, แดนเนรมิตของประเทศไทย รวมไปจนถึง เป็นแรงบันดาลใจของโลโก้วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส (Walt Disney Pictures) อีกด้วย

     ปราสาทนอยชวานชไตน์แห่งนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่ที่ตั้งของตัวปราสาทที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาขนาดใหญ่ ที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 200 เมตร รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาแอลป์ แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี และ อยู่เหนือแก่งของแม่น้ำพอลลัท ทำให้บรรยากาศภายนอกรอบปราสาท เต็มไปด้วยสีสันของธรรมชาติ ซึ่งให้บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูกาล

     ปราสาทนอยชวานชไตน์  มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบฟื้นฟู สไตล์กอธิคผสมผสานสถาปัตยกรรมยุโรปยุคกลาง ซ่งปราสาทแห่งนี้ ออกแบบโดย คริสเตียน แยงค์ (Christian Jank) ซึ่งเป็นนักออกแบบทางการละครมากกว่าเป็นสถาปนิก อีกทั้งปราสาทแห่งนี้ยังได้แรงบันดาลใจมาจากบทประพันธ์เรื่อง อัศวินหงษ์ (Swan Knight Lohengrin) ซึ่งภายในปราสาทจะตกแต่งตามฉากแต่ละฉากของบทประพันธ์ดังกล่าวนั่นเอง 

     สถานที่ท่องเที่ยวแห่งเมืองมิวนิก ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็นอยู่ของชาวเมืองเยอรมนี และ ตลาดสไตล์ยูโรปอย่างแท้จริงนั้น คือ ที่ตลาดวิคทูอาเลียนมาคท์ (Viktualienmarkt) ซึ่งเป็นตลาดกลางใจเมืองมิวนิก กินพื้นที่กว่า 22,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยแผงขายสินค้ามากกว่า 140 แผงลอย ไม่ว่าจะเป็นแผงขายดอกไม้ ขนม ผลไม้ ดอกไม้ ต้นไม้ สัตว์ปีก เครื่องเทศ อาหารเข้า กาแฟ และ อีกมากมาย หากคุณสนใจที่จะมาเดินเล่นที่ตลาดกลางเมืองมิวนิกแห่งนี้ แนะนำให้มาในช่วงเวลา  8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ในวันจันทร์ จนถึงวันเสาร์ของทุกวัน แต่ในช่วงเช้าจะมีความคึกคัก และ บรรยากาศที่น่ารักเอามากๆ เลย 

     ตลาดวิคทูอาเลียนมาคท์ (Viktualienmarkt) เป็นตลาดที่เก่าแก่ของเมืองมิวนิก มีอายุกว่า 200 ปี ซึ่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของทุกปี ตลาดแห่งนี้จะทำการ Transform เปลี่ยนเป็นหนึ่งในคริสต์มาส มาร์เก็ตของเมืองมิวนิก (Christmas Market เยอรมนี) ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับคริสต์มาส มาร์เก็ตบริเวณจัตุรัส Marienplatz และ ถนนคนเดิน Fußgängerzone 

                                                                                    ...................................EP1.....................................