ในทางจิตวิทยา ความฝันมีความสัมพันธ์โดยตรงกับความสุข จากงานวิจัยทางจิตวิทยา เรื่องการสร้างความสุขด้วยจิตวิทยาเชิงบวก ของ เกสร มุ้ยจีน พบว่า เมื่อคนเราสามารถทำตามความฝัน หรือสิ่งที่เราต้องการได้สำเร็จ เราจะรู้สึกมีความสุข รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า มีความภาคภูมิใจในตนเอง พร้อมทั้งยังระบุว่า องค์ประกอบหนึ่งของความสุข คือการมีเป้าหมายในชีวิต หรือการมีความฝันนั่นเอง
ดังนั้นการรักษา Passion ของความฝัน หรือการสร้างความมุ่งมั่นที่จะทำตามความฝัน จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากต่อความสุขในชีวิตของเราค่ะ เราจึงขอนำข้อแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาในการรักษา Passion ของความฝัน 5 ข้อ มาฝากทุกคนกันค่ะ
1. ทำความฝันของคุณให้ชัดเจน
โดยการแปลงความฝันในใจให้เป็นรูปธรรม จับต้องได้ เช่น ถ้าคุณฝันอยากเป็นเชฟขนมหวาน ก็สามารถทำฝันให้เป็นรูปเป็นร่างโดยการหาข้อมูลเรื่องการทำขนม การลงเรียนคอร์สทำขนม การเรียนรู้สูตรหรือเทคนิคจากคุณแม่ คุณย่า คุณยาย แล้วทำให้ฝันใหญ่ขึ้นโดยการแบ่งปันขนมหวานฝีมือเราให้คนรู้จักชิม และปรับปรุงสูตรจนเป็น Signature ของเราต่อไปค่ะ
2. วางแผนที่จะทำให้ความฝันของคุณให้เป็นจริง
อย่างเช่น Kiesenhofer บุคคลตัวอย่างของเราที่ถึงแม้จะเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งความฝันที่จะเป็นนักกีฬาปั่นจักรยานโอลิมปิก โดยการหาข้อมูลและลงแข่งขันในรายการที่สามารถต่อยอดให้ความฝันเป็นจริงได้ นั่นก็คือการลงแข่งในรายการ Time Trial จนสามารถชนะการแข่งขันและ ได้โควต้ามาแข่งโอลิมปิกจนได้เหรียญทองในที่สุดค่ะ
3. พัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำตามความฝันของคุณ
หากคุณมีความฝัน แต่ไม่ได้ฝึกทักษะที่จะทำให้ความฝันเป็นจริง เช่น อยากเป็นนักร้อง ถึงเสียงไม่ให้แต่ใจรัก หรืออยากเป็นทูต แต่ภาษาไม่ได้ ความรู้ทางวัฒนธรรมไม่มี หากเราฝันแต่ไม่ได้พัฒนาตัวเอง เราก็จะได้แต่ฝันเท่านั้น แต่ถ้าเรามุ่งมั่น ตั้งใจ มี Passion ที่จะทำให้ฝันเป็นจริง แล้วพัฒนาตัวเอง เช่น เรียนร้องเพลง เรียนภาษา หาข้อมูลด้านสังคมวัฒนธรรมโลก ก็ช่วยให้เราเข้าใกล้ความฝันได้มากขึ้นค่ะ
4. เชื่อมั่นในตัวเอง
ถึงแม้ว่าตัวจริงของคุณจะขี้อาย แต่ในการทำตามความฝัน เป็นเรื่องที่เราต้องใช้ความกล้าในการเอาชนะความกลัวในใจค่ะ และหัวใจหลักที่เรานำมาใช้ในการเอาชนะตัวเราเอง ก็คือ ความเชื่อมมั่นในตัวเอง อย่างเช่นผู้เข้าประกวดรายการ The voice Thailand 2019 ที่ดิฉันชื่นชอบมาก คือ น้องโอปอ บุคลิกปกติของน้องจะขี้อาย แต่เมื่อขึ้นร้องเพลงบนเวลาที น้องจะนั่งเล่นกีตาร์ตัวเก่ง หลับตา และปล่อยพลังเสียงที่ฟังแล้วเคลิ้มเลยค่ะ เสียงใส เสียงเพราะ เสียงดี และแฝงความหมายไว้ในเนื้อเสียง นั่นแสดงให้เห็นว่าน้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากพอที่จะมาประกวด และทำตามความฝันของตัวเองค่ะ
5. พาตัวเองไปสัมผัสบรรยากาศของความฝัน
ผู้เข้าประกวดรายการเพลงหลายท่าน ใช้วิธีสร้างแรงบันดาลใจ หรือปลุกความกล้าให้ทำตามความฝันผ่านการชมการแสดงของผู้เข้าประกวดในปีก่อน ๆ ซึ่งหลายท่านที่ผลักดันตัวเองให้กล้าทำตามฝันในวันนั้น ก็ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของใครหลายคนในวันนี้ ก็เพราะการพาตัวเองไปสัมผัสบรรยากาศของความฝันนั่นเองค่ะ
โพสต์โดย : เจ้าหนู เมื่อ 15 พ.ย. 2566 06:19:52 น. อ่าน 62 ตอบ 0